เชื่อว่ายังมีมนุษย์เงินเดือน หรือ ลูกจ้าง ที่เป็นผู้ประกันตนในกองทุนประสังคมหลายคน ที่ยังไม่ทราบว่าจ่ายเงินประกันสังคม 750 บาท ทุกเดือนแบ่งเป็นค่าอะไรบ้าง ล่าสุดสำนักประกันสังคม ตอบคำถามมาให้แล้ว
ทั้งนี้เงินประกันสังคมของลูกจ้างแต่ละคนนั้นจะจ่ายไม่เท่ากัน เพราะคิดตามมาฐานเงินเดือนแต่ละคนในอัตรา 5% ของรายได้ต่อเดือน โดยสำนักงานประกันสังคมมีการกำหนดเงินเดือนต่ำสุดเดือนละ 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 และกำหนดให้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสูงสุดที่ 750 บาทต่อเดือน
ดังนั้นใครที่เงินเดือนน้อยกว่า 15,000 บาท ก็จะจ่ายสมทบไม่ถึง 750 บาท ตัวอย่างเช่นเงินเดือน 5,000 บาท ก็จะถูกหักประกันสังคมอยู่ที่ 250 บาท
สำหรับเงินประกันสังคมเดือนละ 750 บาท จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เพื่อเป็นสิทธิประโยชน์ในการดูแลเรื่องต่างๆ ดังนี้
ส่วนที่ 1 : 1.5% หรือ 225 บาท
เงินในส่วนนี้เป็นค่าดูแลรักษาพยาบาล ยามที่ผู้ประกันตนเจ็บป่วย คลอดบุตร หรือเสียชีวิต ถ้าไม่ใช้สิทธิ เงินส่วนนี้ก็จะหายไป ไม่ได้คืน
ส่วนที่ 2 : 0.5% หรือ 75 บาท
เงินในส่วนนี้เป็นค่าประกันการว่างงาน เมื่อเราตกงานหรือว่างงาน ก็สามารถทำเรื่องขอเงินชดเชยจากส่วนนี้ได้
ส่วนที่ 3 : 3% หรือ 450 บาท
เงินในส่วนนี้จะเก็บเป็นเงินออมไว้ใช้เมื่อยามเกษียณ แต่หากขาดส่งหรือหยุดส่ง เงินก็จะยังสะสมไว้ และสามารถขอรับคืนได้เมื่อออกจากประกันสังคมและมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์
โดยจะได้รับคืนในรูปแบบของเงินบำเหน็จ หรือบำนาญ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงิน ไม่สามารถเลือกเองได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากฝ่ายผู้ประกันตน หรือ ลูกจ้างต้องจ่ายเงินประกันสังคมเดือนละ 750 บาท แล้ว จะยังได้เงินสมทบจากส่วนของนายจ้าง 5% และรัฐบาลสมทบอีก 2.75% ในแต่ละเดือนด้วย
ซึ่งในส่วนของเงินชราภาพ หรือเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ นายจ้างสมทบให้ในอัตราเท่ากันคือ 3% ดังนั้นในแต่ละเดือน จะมีเงินสมทบในส่วนเงินชราภาพ 900 บาทต่อเดือน
1.ตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://www.sso.go.th/
2.กรอกเลขบัตรประชาชน / รหัสผ่าน
3.เลือกเมนู “ข้อมูลการส่งเงินสมทบ”
4.กดเลือก ปีพ.ศ. ตรวจสอบได้ทันที
นอกจากนี้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “SSO Connect” ใช้ได้ทั้งระบบ ios และ android ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิประโยชน์ผ่านทางสมาร์ตโฟนได้ทันที วิธีใช้งานดังนี้
ลงทะเบียนยืนยันตัวตนด้วย เลขบัตรประจำตัวประชาชน และ เบอร์โทรศัพท์
หรือ หากผู้ประกันตนได้สมัครตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์ https://www.sso.go.th/ แล้ว สามารถใช้รหัสผ่านเดียวกันได้เลย
